FinTech กับประเทศไทยและ Trends ที่น่าจับตามองในปี 2018

Fintech (Thailand) > Fintech blog  > FinTech กับประเทศไทยและ Trends ที่น่าจับตามองในปี 2018

FinTech กับประเทศไทยและ Trends ที่น่าจับตามองในปี 2018

ปี 2017 ผ่านไปเพื่อต้อนรับปี 2018 ที่กำลังผ่านเข้ามา แต่เทรนด์ในโลกของ FinTech ดูท่าจะยังไม่ไหนง่าย ๆ บทความส่งท้ายปีทั้งที Fintech เลยจะพาคุณไปดูเทรนด์ของฟินเทคที่น่าจับตามองในปี 2018 ที่จะถึงนี้

ฟินเทคและเทรนด์ที่น่าจับตามองในปี 2018

 

ในช่วงที่ผ่านมาผลการรายงานจากหลากหลายสถาบัน ชี้ให้เห็นถึงการเติบโตอย่างมากของ FinTech ของหลาย ๆ ประเทศ โดยเฉพาะประเทศในแถบเอเชียอย่างอินเดีย ที่มีการคาดการณ์กันว่าในอนาคตฟินเทคจะโตจนแซงหน้ามหาอำนาจอย่างจีน แม้แต่ประเทศไทยที่ฟินเทคเพิ่มเริิ่มเข้ามามีบทบาทไม่นาน ก็ถูกมองว่ามีแนวโน้มที่ฟินเทคจะเติบโตได้ดีและถูกใช้อย่างแพร่หลาย

 

ในขณะที่ปี 2018 กำลังใกล้เข้ามาทุกที FinTech ก็ยังคงเป็นเทคโนโลยีที่ถูกพูดถึงอยู่อย่างต่อเนื่อง ดังนั้นเราเลยจะมาดูกันว่าเทรนด์ของฟินเทคในปี 2018 ที่กำลังจะถึงนี้ จะมีอะไรน่าสนใจที่เราควรจับตาดูกันบ้าง

ข้อมูล (Data) จะกลายเป็นสิ่งที่ทรงพลังที่สุด…ที่ธุรกิจใช้เพื่อแสวงหาผลกำไร

 

ด้วยอิทธิพลของข้อมูลที่ขยายตัวขึ้นเรื่อย ๆ โดยเฉพาะในโลกดิจตอล คุณจะได้เห็นข้อมูลทางธุรกิจในหลากหลายรูปแบบ การสื่อสารหลากหลายช่องทางเพื่อจุดประสงค์เดียวกัน (omni channel) หรือกระทั่งการให้บริการทางด้านที่ปรึกษาก็จะอยู่ในรูปแบบของการสื่อสารผ่านข้อมูลที่มีความเฉพาะตัวสำหรับให้บริการลูกค้าในแต่ละราย (cutomized services)

 

ที่ปรึกษาทางการเงินก็เช่นกัน นอกจากเทคโนโลยีที่ใช้แล้ว ข้อมูลจะถูกนำมาวิเคราะห์เพื่อสร้างการให้บริการที่มีความเฉพาะตัวและเข้าถึงลูกค้าให้ได้มากยิ่งขึ้น คุณอาจจะได้เห็นธุรกิจที่ในอดีตอาจไม่มีความเกี่ยวข้องกันเลยมาจับมือทำงานร่วมกัน อย่าง สถาบันการเงินและผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์ ที่อาจทำงานร่วมกันบนแพลตฟอร์มหรือแอพฯสำหรับการลงทุน หรือการกู้ยืมเงิน

 

ข้อมูลในปี 2018 จึงอาจมายถึงเครื่องมืออันทรงพลังในการสร้างกำไรในเชิงของธุรกิจ

การลงทุนแบบอาศัยอัลกอริทึมในการทำงานจะเริ่มพบเห็นได้ทั่วไป

 

ตัวเลขความสนใจในการลงทุนที่เพิ่มสูงขึ้น และการหันมาให้ความสำคัญในการเก็บออมในรูปแบบของการเลือกลงทุนกับบลจ.ในกองทุนต่าง ๆ จะทำให้เทคโนโลยีที่ช่วยให้เกิดการจัดการแบบอัตโนมัติมีเพิ่มมากขึ้น เราจะเห็นถึงความเปลี่ยนแปลงในด้านของการนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้ เพื่อให้การลงทุนเป็นเรื่องที่เข้าถึงได้ง่ายและกลายเป็นธุรกรรมทางการเงินรูปแบบหนึ่งที่ไม่ต่างไปจาก e-banking คุณจะได้เห็น Robo-advisor หรือที่ปรึกษาทางการเงินแบบอัตโนมัติ เทคโนโลยี AI แบบ deep learning ที่เข้ามาเป็นผู้ช่วยในการตัดสินใจลงทุน หรือแม้แต่การให้คำปรึกษาเฉพาะรายบุคคลและการให้บริการตอบข้อสงสัยแบบอัตโนมัติได้ทุกที่ทุกเวลาด้วยเทคโนโลยีแบบ Machine learning เป็นต้น

 

และแม้ว่าเทคโนโลยีอย่าง Robo-advisor หรือ atomatic advisory ที่ต้องอาศัยการทำงานของ AI จะไม่ใช่สิ่งที่ง่ายในการนำมาประยุกต์ใช้ในด้านของการทำงาน แต่ในปี 2018 จะเป็นปีที่ทำให้เราได้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงในด้านการทำงาน ใช้งาน และการให้บริการในอุตสาหกรรมทางการเงินได้อย่างชัดเจน

วงจรชีวิตของเงินในกระเป๋าจะเปลี่ยนไป

 

เมื่อสัก 2-3 ปีที่แล้ว หากพูดถึงเรื่องการใช้เงิน cashless society คงถึงเป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นสำหรับบ้านเรา แต่ในปี 2018 สิ่งที่น่าจับตามองไม่ใช่รูปร่างของเงิน แต่เป็นลักษณะ วิธี และวงจรชีวิตของเงินที่เปลี่ยนไปต่างหากที่เราจะได้เห็นการเปลี่ยนแปลง ในอดีตวิธีการใช้เงินของเราถูกจำกัดให้เงินจำนวนนั้นมีชีวิตอยู่ช่วงเดียว เช่น การใช้เงินจ่ายค่าโทรศัพท์ การใช้บัตรเครดิตรูดซื้อสินค้า เป็นต้น แต่ในปี 2018 ที่จะถึงนี้ คุณอาจจะได้เห็นวงจรชีวิตของเงินที่เปลี่ยนไป เช่น การใช้บัตรเครดิตเติมเงินในแอพฯแบบ e-wallet เพื่อใช้จ่ายค่าสินค้า ซึ่งสินค้าชนิดนั้นอาจร่วมรายการได้เครดิตเงินคืนหรือได้ credit point มากกว่าเดิมเมื่อใช้จ่ายผ่านแอพฯ e-wallet นั้นหมายความว่าเงินจากบัตรเครดิตที่คุณเติมก็จะมีวงจรชีวิตที่ต่อเนื่องไปเรื่อยๆ

 

ลักษณะวงจรการใช้เงินแบบนี้ จะเป็นลักษณะเดียวกับที่แอพฯลงทุน Acorn ใช้ คือ เงินที่คุณเติมในแอพฯเพื่อใช้ลงทุน สามารถนำไปใช้จ่ายสินค้าในห้างได้ และเมื่อคุณได้เงินทอนมา เงินทอนนั้นก็จะถูกเปลี่ยนเป็นเงินลงทุน เป็นการต่อวงจรชีวิตของเงินให้ยาวออกไปแบบไม่เสียประโยชน์นั้นเอง

ลูกค้ายังคงเป็นพระเจ้าสำหรับการดำเนินธุรกิจ

 

จะว่าเป็นเรื่องเก่าเล่าใหม่ก็คงจะไม่ผิดนัก เพราะในท้ายที่สุดแล้วลูกค้าก็ยังคงเป็นคนสำคัญที่สุด เห็นได้จากเทคโนโลยีเกือบทุกด้านที่กล่าวมาล้วนแล้วแต่ถูกพัฒนาเพื่อตอบสนองความต้องการของลูก ปรับปรุงบริการให้ดีขึ้นเพื่อความพึงพอใจของลูกค้า แทบทั้งสิ้น แต่ถึงแม้จะเป็นแบบนั้น แต่ในปี 2018 สิ่งที่น่าจับตามมองไม่ใช่การที่ลูกค้ายังเป็นพระเจ้า แต่เป็นการวิธีการบริการและตอบสนองลูกค้าที่เป็นพระเจ้าเหล่านั้นต่างหากที่น่าสนใจ

 

คุณจะได้เห็นเทคโนโลยีอัตโนมัติเข้ามามีบทบาทในแทบจะทุกธุรกิจ ไม่เว้นแม้แต่ธุรกิจการให้บริการที่ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจหรือการให้คำปรึกษา อย่าง การมีที่ปรึกษาการลงทุนส่วนตัวที่อยู่กับคุณทุกที่ทุกเวลา

 

และเนื่องในวาระขึ้นปีใหม่ Fintech ก็ขอใช้บทความส่งท้ายปีนี้ ในการเป็นกำลังใจและขอให้ทุกธุรกิจดำเนินไปได้อย่างราบรื่นตลอดปี 2561

 

Cr. entrepreneur.com, freepik.com