นับถอยหลัง Big Grand Sale งานวันคนโสดของประเทศจีน 11 เดือน 11

Fintech (Thailand) > Fintech blog  > นับถอยหลัง Big Grand Sale งานวันคนโสดของประเทศจีน 11 เดือน 11

นับถอยหลัง Big Grand Sale งานวันคนโสดของประเทศจีน 11 เดือน 11

กลายเป็นสถิติโลกไปแล้ว สำหรับยอดขายถล่มถลายบนโลก Online ที่ถูกสร้างขึ้นโดย Alibaba Group ในงาน Alibaba’s Singles’ day ที่มียอดการช้อปสูงขึ้นทุกปี โดยปีล่าสุด 2015 ทำยอดสูงถึง 14,300 ล้านเหรียญสหรัฐ ภายใน 24 ช.ม. และมีการจับจ่ายใช้สอยแบรนด์จากกว่า 200 ประเทศทั่วโลก ซึ่งกว่า 70% เป็นยอดการซื้อผ่านทางโทรศัพท์มือถือ

ซึ่งการทำโปรโมชั่นวันคนโสดของ Alibaba Group เกิดขึ้นมาตั้งแต่ปี 2009 เพื่อโปรโมท Taobao เว็บไซต์ขายสินค้า Online ลักษณะคล้ายกับ eBay ครั้งนั้น Alibaba ประชาสัมพันธ์ด้วยการให้ส่วนลดกว่า 50%  มีร้านค้าเข้าร่วม 27 ร้านค้า และสามารถสร้างรายได้ไปถึง 50 ล้านหยวนหรือ 7 ล้านเหรียญสหรัฐ

มาในปี 2011 Alibaba เริ่มเปิดตลาดมากขึ้น โดยการชวนแบรนด์ต่างชาติเข้าร่วมงานนี้ ซึ่งเป็นผลให้ Gap และ RayBan เปิดร้านค้าใน Alibaba เป็นปีแรก และในปีเดียวกันนั้น Tmall ถูกแยกออกจาก Taobao และเกิดร้านค้าย่อย แบรนด์จีนและแบรนด์ต่างชาติอีกกว่า 70,000 แบรนด์ โดย Alipay แพลตฟอร์มการจ่ายเงิน online ของ Alibaba สามารถบันทึกรายการใช้จ่ายในปีนั้นได้ถึง 33.69 ล้านรายการ

ในปี 2015 งาน Alibaba’s Singles’ day สร้างสถิติโลกด้วยการทำยอดการช้อปปิ้งออนไลน์ได้สูงสุดถึง 14,300 ล้านเหรียญสหรัฐ ภายใน 24 ช.ม. และมีการจับจ่ายใช้สอยไปกว่า 200 ประเทศทั่วโลก ซึ่งกว่า 70% เป็นยอดการซื้อผ่านทางโทรศัพท์มือถือ ซึ่งได้มีการเปรียบเทียบสถิติของการช้อปปิ้ง Online ในงาน Alibaba’s Singles’ day กับ Black Friday และ Cyber Monday ของอเมริการวมกัน พบว่ายอดขายรวมกันของทั้ง 2 วันของอเมริกายังไม่เท่ากับ Alibaba’s Singles’ day วันเดียวเลย

และปีนี้ 2016 Jack Ma กระตุ้นยอดขาย ด้วยการจัดโปรโมชั่นจากแบรนด์ยักษ์ใหญ่ อย่าง Apple ด้วยการขายหูฟังรุ่นใหม่ (Beats earphone) ด้วยการลดราคา 50% และยังมีแบรนด์ดังอย่าง Nike ที่มากับส่วนลด 60% นอกจากนี้ยังมีห้างดังจากฝั่งอเมริกาที่พร้อมเข้าร่วมงานนี้อีกมากมาย อาทิ Costco, Macy หรือแม้แต่ Starbucks พร้อมทั้งเชิญ Katy Perry และ Kobe Bryant ร่วมเปิดงานอีกด้วย ก็ต้องมาติดตามกันต่อไปว่า ปีนี้ยอดขายในงาน Alibaba’s Singles’ day จะถล่มถลายกว่าปีที่แล้วหรือไม่!!

ที่มา

Forbes